📌 ศธจ.ประจวบคีรีขันธ์ ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการ Zero Dropout จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ครั้งที่ 3/2568 “เด็กทุกคนต้องได้เรียนรู้ Prachuap Khiri Khan Zero Dropout : การศึกษาที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2568

ณ ห้องสิงขร โรงแรมประจวบแกรนด์ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ (Prachuap Khiri Khan Zero Dropout) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ครั้งที่ 3/2568 โดยมี นายประทีป บริบูรณ์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นางอังคนา นุ่มวัด ศึกษาธิการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการ และคณะทำงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม เพื่อรายงานผลการให้ความช่วยเหลือและติดตามเด็กและเยาวชนที่หลุดออกจากระบบการศึกษาให้กลับเข้าสู่เส้นทางการเรียนรู้และมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม ตามนโยบาย “Thailand Zero Dropout” ของรัฐบาล

ผลการดำเนินงานขับเคลื่อนเชิงรุกเพื่อลดจำนวนเด็กนอกระบบการศึกษา

จากการดำเนินงานที่ผ่านมา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้แสดงผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนที่ไม่มีชื่อในระบบการศึกษา ช่วงอายุ 3 – 18 ปี ซึ่งมีจำนวนเริ่มต้น 9,601 คน ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

1. การค้นหา: “เคาะประตูบ้าน” เข้าถึงทุกครัวเรือน

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ดำเนินการค้นหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาอย่างครอบคลุม ผ่านการบูรณาการข้อมูลและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทางการศึกษาที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 และเขต 2 รวมถึงสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยใช้กลไกการค้นหาแบบ “เคาะประตูบ้าน” ซึ่งดำเนินการโดยครู หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแกนนำชุมชน ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ (Prachuap Khiri Khan Zero Dropout) และคณะทำงานระดับอำเภอ เพื่อระบุตัวตนและสภาพปัญหาของเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา

2. การช่วยเหลือ: วิเคราะห์ 40 สาเหตุ ตอบสนองทุกมิติ

สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดทำแนวทางการให้ความช่วยเหลือแก่เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา โดยวิเคราะห์และจำแนกสาเหตุของการออกนอกระบบการศึกษาจำนวน 40 สาเหตุ ซึ่งสามารถจัดกลุ่มได้ 5 ด้านหลัก ได้แก่ ปัญหาด้านครอบครัว ปัญหาด้านสังคม ปัญหาด้านพฤติกรรมตัวเด็ก ปัญหาด้านเศรษฐกิจ และปัญหาเรื่องสุขภาพ-ความพิการ ทั้งนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการพื้นฐานและเหมาะสมกับศักยภาพของแต่ละบุคคล สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้บูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง มุ่งเป้าให้เด็กและเยาวชนสามารถกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาได้อย่างยั่งยืน

3. การส่งต่อ: หลากหลายเส้นทางสู่การเรียนรู้

มีการดำเนินมาตรการส่งต่อเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาและความต้องการเฉพาะบุคคล ผ่านการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โรงเรียนในพื้นที่บริการ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ ศูนย์การศึกษาพิเศษ หน่วยงานด้านสาธารณสุข หน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีการประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางและรูปแบบการส่งต่อที่หลากหลาย เช่น การกลับเข้าเรียนในสถานศึกษาตามระบบปกติ การเรียนรู้ผ่านระบบการศึกษานอกโรงเรียน การเรียนรู้ในรูปแบบทวิภาคี หรือการพัฒนาทักษะอาชีพผ่านศูนย์ฝึกอาชีพ เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาต่อเนื่องและไม่หลุดจากระบบ

4. การดูแล: ติดตามและส่งเสริมอย่างยั่งยืน

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ให้ความสำคัญกับการดูแลเด็กและเยาวชนที่กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถเรียนรู้และพัฒนาได้อย่างเหมาะสม และป้องกันการหลุดจากระบบอีกครั้ง โดยมีการดำเนินงานในลักษณะของการติดตาม ดูแล และส่งเสริมในด้านต่างๆ ผ่านความร่วมมือจากสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ หน่วยงานด้านสุขภาพจิต หน่วยงานพัฒนาสังคม และแกนนำชุมชน ซึ่งมีแนวทางการดำเนินงานสำคัญ ได้แก่ การติดตามและประเมินพฤติกรรม การให้คำปรึกษาและแนะแนวทางการเรียนและอาชีพ การจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด รวมถึงการจัดระบบรายงานและประเมินผลการดูแลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างแรงจูงใจและลดความเสี่ยงในการหลุดออกจากระบบการศึกษาในอนาคตอย่างยั่งยืน

ความสำเร็จที่ภาคภูมิใจ: “Zero Dropout” สู่การศึกษาที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการลดจำนวนเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้หลายพื้นที่สามารถรายงาน ‘Zero Dropout’ ได้อย่างภาคภูมิใจ เด็กๆ ได้กลับมาเรียน ผู้ปกครองมีความมั่นใจ และชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลบุตรหลาน สอดคล้องกับเจตนารมณ์ที่ว่า “เด็กทุกคนต้องได้เรียนรู้” “Prachuap Khiri Khan Zero Dropout: การศึกษาที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

*********************************************

#ศธจประจวบคีรีขันธ์ #ศึกษาธิการจังหวัด #ประจวบคีรีขันธ์ #กระทรวงศึกษาธิการ #สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ #ZeroDropout #ThailandZeroDropout #การศึกษาประจวบต้องไปต่อ #NextMovePrachuap